top of page

ชีวิต 36ชั่วโมงบนรถไฟ LA to Seattle

  • #Journey.awaits
  • Oct 2, 2017
  • 2 min read

เส้นทางการเดินทางครั้งนี้นะครับ ก็จะเริ่มที่ Los Angeles > Portland > Seattle

ขึ้นรถไฟที่ Los Angeles Union Station ลงที่ Seattle King Street Station

ระยะทางทั้งหมด 1.130 mile ( 1,818 Km) ใช้เวลา 36 hr โดยประมาณ

ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่านี้ไม่ใช่การขึ้นรถไฟครั้งแรกตั้งแต่ที่มาอยู่ที่อเมริกา แต่นี้เป็นครั้งแรกที่นั้งรถไฟนานขนาดนี้ นานที่สุดในชีวิตก็ว่าได้

พอดีตอนนั้นมาเยี่ยมพี่ตอนปีใหม่จาก Seattle แล้วตอนกลับก็มีเวลาเหลืออยุ่ เลยนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนเคยแนะนำให้ขับรถจากริมชายฝั่ง Californai เพราะชายหาดวิวสวยมาก เลยตัดสินใจที่จะนั้งรถไฟกลับไป Seattle แม้ต้องใชเวลาประมาณ 36 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ตั๋วรถไฟช่วงนี้ไม่ถูกเลย เนื่องจากเป็นตอนสิ้นปีขึ้นปีใหม่ คนเดินทางเยอะมาก ราคาพอๆกับนั้งเครื่องบินกลับมาที่ Seattle เลย ประมาณ $130 ต่อเที่ยว หรือประมาณ 4,420บาท แต่ในขณะเดียวกันถ้าสามารถจองล่วงหน้ามากกว่าสามเดือนขึ้นไป จะทำให้ราคาถูกลงได้ถึง 30%-50% เลยทีเดียว ยิ่งถ้าไม่ติดเทศกาล การเดินทางด้วยรถไฟที่นี้จะถือว่าถูกและสบายเลยทีเดียวครับ

ออกจากสถานนี LA มาเล็กน้อย

การไปขึ้นรถไฟที่นี้ แนะนำว่าควรจะไปถึงสถานนีก่อนสักหนึ่งชั่วโมง เนื่องจากที่นั้งไม่ได้กำหนดแน่นอน ใครมาก่อนก็มีสิทธิได้ที่นั้งที่ดีกว่า แต่สิ่งที่จะแนะนำคือในตอนจองตั๋วจะมีตัวเลือกว่า ริมหน้าต่าง หมายถึงตอนไปออกที่นั้งพนักงานจะให้ที่นั้งติดหน้าต่างเรามา ซึ่งคิดว่าจำเป็นมากครับ วิวริมหน้าต่างสวยและเป็นเอกเทศมาก

พอออกจาก LA มาก็ผ่าน beach แรก ในระหว่างเดินทางไปที่ Santa Barbara ช่วงเวลาประมาณ 10โมงเช้า ในช่วงหน้าหนาวอาทิตย์ที่นี้จะขึ้นช้ากว่าปกติ ทำให้ได้เห็นบรรยากาศอาทิตย์สาดส่องในยามเช้าพอดิบพอดี

การเดินทางครั้งนี้จะผ่านทั้งสิ้น 3 รัฐด้วยกันคือ Californai > Oragon > Washington โดนที่ไม่คาดคิด เราได้เห็นบรรยากาศที่แตกต่างกันถึง 3 อารมณ์เลยทีเดียว

เริ่มต้นกันด้วยวิวชายทะเล โดยรถไฟขบวนนี้เรียกว่า Amtrak Starlight จะวิ่งผ่าน Los Angeles > Santa Barbara > Guadalupe

> San Lusi Obispo > Salinas > San Jose จนถึง Oakland/Emeryville ก่อนที่จะเปลี่ยนเข้าสู่วิวภูเขาที่ Sacramento

จุดที่เราจะเห็นชายหาดได้ จะเป็นช่วง Los Angeles ถึง San Lusi Obispo

สำหรับการเตรียมตัวขึ้นรถไฟที่นี้ จะนำให้แต่งตัวสบายๆ ซื้ออาหาร น้ำ และของทานเล่นติดมือขึ้นมามากๆ เนื่องจากอาหารและเครื่องดืมบนรถไฟจะแพงกว่าของนอก สองถึงสามเท่าทีเดียว

รถไฟ Amtrak Starlight ขบวนนี้จะแบ่งเป็นหลักสี่ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกจะเป็นห้องอาหาร รถไฟจะมีบริการ Dining คือการนั้งทานอาหารที่ห้องอาหาร ราคาอาหารเย็นจะเริ่มต้นที่ $18 เช่น บะหมีผัก ไปจนถึง $36 ที่จะเป็นอาหารทะเล และยังมีเมนูเครื่องดืม Beer, Wine และ liqure ให้บริการสำหรับผู้ที่สนใจ

ในส่วนที่สองจะเป็นส่วนของจุดชมวิว จะเป็นขบวนที่วางเก้าอี้หันออกข้างนอก และเป็นกระจกสัก 80% ทำให้สามารถเห็นวิวได้ทั้ง 360องศา ในตอนที่อาทิตย์ยังไม่ตก แนะนำให้มานั้งอ่านหนังสือ ชมวิวเพลินๆได้เลยครับ ฟินสุดๆ

ส่วนที่สามและสี่จะเป็นจุดที่นั้งพัก โดยแบ่งเป็นห้องนอนและเก้าอีกนอนครับ ห้องนอนจะแบ่งไปอีกว่าเป็นห้องส่วนตัวรึห้องรวม มีห้องน้ำส่วนตัวรึปล่าว ซึ่งราคาก็จะสูงตามขึ้นไปด้วย ส่วนสุดท้ายจะเป็นที่นั้ง แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ เก้าอี้นั่งสบายมาก สามารถปรับนอนได้ประมาณ 160องศาเลย เพราะฉะนั้นใครที่กังวลว่าจะลำบากเหมือนนั้นเครื่องบินนานนาน เลิกห่วงได้เลย เพราะนอนสบายและสามารถเดินไปเดินมาได้

สำหรับอาหารเย็นคืนนี้เนื่องจากไม่ได้เตรียมมา เลยได้ใช้บริการ Dining โดยพนักงานจะเดินถามมาตั้งแต่ต้นขบวนว่าใครจะใช้บริการบ้าง เราก็ลงชื่อเอาไว้ แล้วพนักงานจะบอกว่าเราได้รอบไหน ที่เราได้มาคือช่วง 7.00pm - 7.40pm เมื่อถึงเวลาจะมีประกาศเรียก เราก็เดินไปที่ห้องอาหารและพนักงานจะจัดที่นั้งให้

ถ้ามาคนเดียว จะโดนจับไปนั้งรวมกันกับผู้โดยสารคนอื่นจนได้ 4 คนต่อโต๊ะ ซึ่งคืนนั้นได้ไปร่วมทานอาหารค่ำกับคู่สามีภรรยาชาว American และ นักศึกษา Italy อีกหนึ่งคน ทำให้ได้แลกเปลี่ยนความรู้กันในหลายๆเรื่อง เป็นประสพการณ์ที่ดีมากครับ

หลังจากอาหารเย็น ก็ได้กลับไปพักผ่อน คืนนั้นรถไฟได้แล่นผ่านเมือง Oakland/Emeryville และเปลี่ยนเข้าสู่ Sacramento พอตื่นมาตอนเช้าก็ได้พบกับภาพที่ยากจะลืมเลือน วิวทั้งหมดได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากน้ำทะเลและชายหาดถูกแทนที่ด้วยเกรดสีขาวบริสุทธิ์ของหิมะในยามเช้า ปกคลุมไปทั่วขุนเขา

ในช่วงนี้รถไฟจะวิ่งผ่านเมือง Sacramento > Marysville > Chico > Redding > Klamath Falls > Chemult > Eugenr > Albany > Salem > Portland > Olympia และถึง Seattle ที่เป็นจุดหมาย

ช่วงในเดือนธันวาคน และต่อมกรา จะยังอยู่ในช่วง ฤดูหนาวของอเมริกา ภูมิประเทศที่ไม่ติดกับทะเล จะมีความแห้งสูงมาก และทำให้เกินหิมะจำนวนมาตลอดช่วงหน้าหนาว

เมื่อเรามองออกไปจากห้องชมวิว ก็จะได้เห็น หิมะที่ขาวสะอาดปกคลุมอยู่ทุกหนแห่ง เป็นการได้ทานอาหารเช้าท่ามกลางหิวมะจริงๆครับ

และเมื่อขบวนรถไฟวิ่งผ่านช่วงภูเขาเข้าสู่รัฐ Oregon วิวหิมะเข้าสู่วิวทุ่งหญ้าและที่ราบ ซึ่งจะเป็นช่วงสุดท้ายก่อนที่จะถึง Seattle ระหว่างทางจะผ่านเมืองสำคัญมากมายเช่น Eugene เมื่องแห่งมหาลัย University of Oregon, Portland ซึ้งเป็นเมืองท่า และเมืองแห่งการ Shopping เนื่องจากไม่มี Sale Tax และ Olympia ที่เป็นเมืองหลวงของรัฐ Washington

และแล้วก็ได้กลับมาถึงจุดมายที่ Seattle, Washington สถานที่ต้นกำเนิดของ Starbuck และมี Startbuck สาขาแรกของโลก มาถึงที่นี้ก็เป็นเวลาประมาณ 9.20pm ได้ สำหรับใครที่ยังไม่เหนื่อย แนะนำในไปเก็บกระเป๋าและเที่ยว Seattle ในยามค่ำคืนได้นะครับ มีร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน ที่น่าสนใจไม่น้อย ที่เมืองนี้ครั้งหนึ่งเคยถ่ายทำหนังที่ชื่อเรื่อง Sleepless in Seattle.

Comments


You Might Also Like:
About Us

Journey awaits is not a just traveling page. We are inspirer who love to encourage all to follow your own passion and dream. Do as you all wanna do. Join us on the new foot step you never thought of. If you have a dream, why not make it comes true. 

Journey Awaits...It's just another footprint in life. 

 

  • Facebook - Black Circle
  • Instagram - Black Circle
  • Pinterest - Black Circle
  • Google+ - Black Circle
  • YouTube - Black Circle

© 2023 by Going Places. Proudly created with Wix.com

bottom of page