Shirakawago หมู่บ้านแห่งความทรงจำ
- #Journey.awaits
- Apr 9, 2020
- 1 min read
พูดถึงชิราคาวาโกะส่วนใหญ่จะนึกถึงบ้านญี่ปุ่นสมัยเก่า ปกคลุมไปด้วยหิมะ และประดับด้วยแสงไฟในหน้าหนาวอันสวยงามทั้งหมู่บ้าน อากาศที่หนาวเย็นและพร้อมจะซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มตลอดเวลา แต่วันนี้ผมจะพามาสัมผัสกับอีกหนึ่งบรรยากาศที่น่าหลงไหลของหมู่บ้านแห่งวัฒนธรรมแห่งนี้ ที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไป บรรยากาศก่อนที่ปุยหิมะจะโปรยลงจากฟ้า ก่อนที่ใบไม้ใบสุดท้ายจะล่วงลงจากต้น ช่วงเวลาอันแสนสงบที่ปกคลุมด้วยสีแดงฉานของใบไม้ที่เปลี่ยนสีก่อนที่จะร่วงโรย ความโรแมนติกที่สามารถดึมด่ำไปพร้อมคนคู่ใจที่ไม่มีวันลืม

การเดินทางไปที่ ชิราคาวาโกะสามารถไปได้จากหลายเส้นทาง ในครั้งนี้เราเลือกที่จะมาลงเครื่องที่สนามบิน chubu centrair international airport หลังจากเตรียมเสบียงและรับรถกับ Time Rental Car แล้วก็มุ่งสู่จุดหมายในวันนี้กันเลย ขับรถประมาณ 3 ชั่วโมง ครั้งนี้ต้องขอบคุณ TOYOTA VELLFIRE สำหรับการเดินทางที่แสนสะดวกสบาย

หมู่บ้านชิราคาวาโกะตั้งอยู่ใน จังหวัดกิฟุ ทางตอนเหนือของนาโกย่า ถึงแม้ต้องเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง แต่ไม่ต้องกังวล ระหว่างทางจะมีที่ให้พักทานอาหาร เข้าห้องน้ำและซื้อของฝากอยู่ตลอด ทำให้การเดินทางไม่รู้สึกนานจนเกินไป หลังจากเดินทางมาสักพัก เราก็แวะทานอาหารที่จุดพักแห่งหนึ่ง การสั่งอาหารตามจุดพัก เราจะต้องไปกดคูปองจากตู้อัตโนมัติ และไปยื่นให้หน้าเค้าเตอร์ ความน่าสนใจคือ ทั้งหมดเป็นภาษาญี่ปุ่นหมดเลย
หลังจากทานข้าวเรียบร้อย เราก็มุ่งตรงสู่หมู่บ้านชิราคาวาโกะในทันใด เนื่องจากคืนนี้เราจะพักในหมู่บ้าน เราจะสามารถนำรถเข้าไปจอดหน้าที่พักได้เลย อากาศในช่วงพฤศจิกายนจะอยู่ประมาณ 11-18 องศา ไม่ได้หนาวจนเกินไป ไม่จำเป็นต้องเตรียมชุดมามากเกิน กว่าจะเดินทางมาถึงประมาณบ่าย 2 ทำให้เหลือเวลาเดินอีกประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนสถานที่ท่องเที่ยวจะปิด

หมู่บ้านชิราคาวาโกะจะแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกเป็นโซนของหมู่บ้านและที่พัก และส่วนที่สองเป็นโซนของจุดจอดรถ ในส่วนของโซนหมู่บ้าน จะประกอบไปด้วยบ้านในประวัติศาสตร์ที่โชว์วัฒนธรรมในอดีต ร้านอาหาร ที่พัก พิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ และร้านค้า

วิวในยามบ่ายแก่ๆในช่วยฤดูใบไม้ร่วง

อย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับคอเนื้อเมื่อมาถึงที่นี้คือ เนื้อฮิดะย่าง และเนื้อฮิดะหุ้มเกร็ดขนมปังทอด ซึ่งเนื้อฮิดะที่เป็นเอกลักษณ์นี้จะหาทานได้เฉพาะมณฑลกิฟุเท่านั้น ความอร่อยไม่เป็นรองเนื้อโกเบหรือเนื้อขึ้นชื่ออื่นๆเลยทีเดียว


เนื้อร้อนๆที่ย่างเสร็จใหม่ๆ โรยด้วยเกลือที่คัดสรรเฉพาะ ทานภายใต้อากาศที่เย็น ทำให้กลิ่นเนื้อนั้นอบอวลและรสชาติประทับใจเป็นพิเศษ
ก่อนที่จะกลับที่พักเพื่อทานอาหารเย็น ก็ถือโอกาสเดินรอบหมู่บ้านอีกรอบเพื่อชมบรรยากาศอาทิตย์ลับฟ้าอันแสนโรแมนติก รับรองใครที่มากับคนรู้ใจ บรรยากาศอย่างนี้ต้องพลาดไม่ได้แน่นอน



ที่พักคืนนี้ชื่อ Magoemon เป็นที่พักสไตล์เรียวกังหรือที่พักแบบญี่ปุ่นโบราณ มีอาหารค่ำและอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นไว้บริการ หลังจากที่กลับจากการชมอาทิตย์ตกแล้ว ก็มาพักผ่อนรออาหารเย็นที่จะทานพร้อมกันประมาณ 6 โมงเย็น

บรรยากาศช่วงรอคอยอาหารค่ำคืนนี้ ณ Magoamon, Shirakawako Japan

ย้อนยุคกลับไปสมัยอดีต พร้อมปลาเผาสุดคลาสสิก
และแล้วเวลาแห่งความสุขก็มาถึง อาหารที่เสิร์ฟเป็นรายบุคล ประกอบด้วยเนื้อฮิดะเกรด A ที่เอามาย่างโดยการลนไฟผ่านกระดาษไขที่มีกลิ่นพิเศษ ส่งให้รสชาติอบอวลอยู่ในปากอร่อยจนเกินบรรยาย อาหารอย่างอื่นก็อร่อยไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นมะเขือญี่ปุ่นหมักซอส ปลาเผาถ่าน หรือผักดองที่เตรียมไว้ให้เป็นพิเศษ แม้กระทั้งชาเขียวก็เป็นชาชั้นดี พูดได้ว่าเป็นมื้อที่อร่อยไร้ที่ติ เสียแต่ว่า ให้เนื้อน้อยไปเท่านั้นเอง


เนื้อฮิดะเกรด A ที่พร้อมจะละลายในปากอยู่ทุกเมื่อ

บรรยากาศในห้องทานอาหาร

และปลาเผาที่จะลืมเสียไม่ได้
หลังจากทานอาหารเสร็จก็แยกย้ายกันพักผ่อนและต่อคิวกันอาบน้ำเนื่องจากที่นี้มีห้องอาบน้ำเพียงห้องเดียว สามารถให้ได้ทีละสองคน จึงทำให้ต้องจัดคิวกันใช้ระหว่างผู้พักอาศัยท่านอื่นด้วย
ที่นอนคืนนี้จะเป็นฟูกที่ปูกับพื้น แต่ความสบายนั้นไม่ด้อยไปกว่าเตียง 5 ดาวเลย เมื่อเข้าไปใต้ผ่าห่ม ความสบายก็แล่นขึ้นมาทำให้หลับสนิทจนถึงเช้าเลยทีเดียว

ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยฝนพร่ำๆยามเช้าในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้อากาศที่หนาวเย็นดูชุ้มชื้นขึ้นมาบ้าง อากาศที่ชื้นทำให้มีหมอกลอยตัวในอากาศ

บรรยากาศจากหน้าห้องพัก

ตอนรับด้วยอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น ทานกันให้จุใจ
หลังจากทานอาหารเช้าและเก็บของเรียบร้อย ก็ได้เวลาชำระค่าที่พัก ที่พัก Magoamon นี้จะคิดบริการเป็นรายหัว รวมอาหารค่ำและอาหารเช้า ตกคนละ 3,400 บาทต่อคืน เป็นราคาที่ค่อนค้างสูง แต่คุ้มค่าสำหรับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน

เช้านี้จะพาไปชมโซนที่ 2 ของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ เป็นโซนทางเข้าและที่จอดรถ สำหรับบุคคลที่ไม่ไม่พักแรมในหมู่บ้านจะต้องไปจอดรถที่ลานจอดและเดินข้ามสะพานเข้าถึงตัวหมู่บ้านทางนี้เท่านั้น

ร้านขายของที่ระลึกด้านลานจดรถ

บรรยากาศอันแสนสงบในยามเช้า

โบกรถซะหน่อย


ช่วงเวลาและภาพบรรยากาศในหมู่บ้านชิราคาวาโกะในช่วงฤดูแห่งความรักนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะมาสวีตกันเป็นคู่ หรือมาเสพบรรยากาศแห่งความเหงาที่แสนสวยงามคนเดียวก็ตาม ยิ่งถ้ามีโอกาศแล้ว ควรที่จะพักค้างคืนเพื่อสัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆสักคืน คุณจะได้เสพบรรยากาศที่ไม่เคยคาดฝัน กลิ่นอายโบราณ และประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
ช่วงเวลา : 20 พฤศจิกายน 2019
ติดตามผลงานอื่นได้ที่
FB : https://www.facebook.com/journeyawaits/
IG : Journey.awaits
Web : Journey-awaits.com
Comments