Great Ocean Road

หากใครมีโอกาสมาที่รัฐ Victoria ประเทศ Australia แล้ว หนึ่งในสถานที่ที่พลาดไม่ได้เลยคือ Great Ocean Road ที่ถือเป็นเส้นทางสวรรค์ริมชายฝั่งของ Australia เลยก็ว่าได้ ถนนสายนี้จะเรียบไปตามชายฝั่ง มีระยะทางประมาณ 243 กิโลเมตร ตลอดรายทาง จะพบกับวิวชายหาดที่น่าตื่นตาตื่นใจ และหิน Limestone ที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนเกิดเป็นรูปร่างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

การไป Great Ocean Road มีอยู่สองวิธี 1 เช่ารถขับไปเอง ซึ่งจะแนะนำมากถ้ามี 2 - 3 คนขึ้นไปเนื่องจากสามารถเสพบรรยากาศและใช้เวลาในแต่ละที่ได้ตามความต้องการของเราเอง ค่าเช่ารถ และน้ำมันถ้าหารกัน สามคนถือว่าถูกมาก วิธีที่ 2 คือการซื้อ Tour แบบ One Day Trip จะตกอยู่คนละ 80 AUD - 120 AUD ไม่รวมค่าอาหาร และเราจะต้องไปรวมกับคนอื่น ไม่อิสระเหมือนเที่ยวเอง ทั้งสองแบบ สามารถเดินทางเริ่มต้นได้ที่ Melbourne

ทริปนี้เป็นการ Join Tour แบบ One Day Trip ซึ่งความจริงถ้ามีเวลาอยากแนะนำให้มาซักสองวัน เราสามารถพักที่เมืองใกล้ๆ และมาชมวิวในตอนอาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกได้ด้วย รับรองว่าไม่ผิดหวังเพราะเป็นบรรยากาศที่แสนโรแมนติกมาก

ออกเดินทาง จาก Melbourne ประมาณ หนึ่งชั่วโมง จะพบกับจุดชมวิวจุดแรก ที่เป็น highlight ของ Great Ocean Road "12 Apostles" ซึ่งถ้าไม่ได้มาที่นี้ ถือว่าไม่ได้มาเที่ยว Great Ocean Road เลยทีเดียว

12 Apostles เป็นเสาหินปูธรรมชาติอันโด่งดัง เรียงรายกันอยู่เป็นกลุ่มในทะเล เกิดจากการกัดกร่อนของลมและน้ำทะเลนับพันปีจนเขาหินปูนกลายเป็นโพรง กลายเป็นถ้ำในเวลาถัดมา และสุดท้าย ถ้ำก็ยุบตัวลงเหลือเป็นโครงเสาหิน ปัจจุบันมีอยู่ 8 ต้นด้วยกัน

ถัดจาก 12 Apostles รถจะมาจอดในจุดชมวิวถัดไป Loch Ard Gorge ที่เป็นหนึ่งในจุดที่เหมาะกับการชมอาทิตย์ตกมาก น่าเสียดายที่ทริปนี้เรามากับทัวร์และพามาในตอนที่แดดยังร้อนแรงอยู่ แต่กระนั้น วิวที่นี้ก็ยังน่าประทับใจไม่น้อย ด้านล่างเราสามารถเดินลงไปที่ชายหาดเพื่อนอนชมวิวในบรรยากาศอันแสนสงบได้ หรือใครอย่างจะว่ายน้ำก็ได้ แต่ในช่วงนี้ต้องบอกว่าน้ำเย็นมาก

ก่อนที่จะแวะทานข้าว ก็ไปหยุดกันที่ The Razorback ซึ่งเป็นหน้าผา ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปในทะเล เป็นวิวที่สวยอลังการ และเสียวน่ากลัวที่จะตกลงไป ถืงขนาดหยุดลมหายใจคุณไปชั่วขณะเลยทีเดียว

ในช่วงกลางวัน จะมาพักกันที่เมืองเล็กๆ ริมทะเล Port Campbell เป็นเมืองเล็กที่ครบถ้วนไปทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือที่พัก และใครที่ขับรถมาเองอยากแนะนำให้ค้างที่เมืองนี้ซักคืน คุณจะได้เสพบรรยากาศอันสงบสุขของชายทะเล กับแดดอุ่นๆในวันที่หนาวๆ พร้อมกับดึ่มด่ำเบียร์เย็นๆกับ Fish and Chip อันมีชื่อเสียงของที่นี้

ระหว่างทางกลับ Melbourne จะผ่าน London Bridge ที่ครั้งหนึ่งเคยมีรูปร่างเหมือนสะพานยาว จนกระทั้งในเดือนมกราคม ปี 1990 หินที่เชื่อมกันอยู่กับฝั่งชายฝั่งเกิดถล่มลงมา ทำให้สะพานแยกตัวและเกิดเป็นช่องว่างนั้นเอง

จาก London Bridge เดินทางกลับสู่ Melbourne ประมาณ สองชั่วโมง กว่าจะถึงเมืองก็เย็นแล้ว ถือว่าเป็นการเที่ยวแบบ One day trip ที่ค่อนข้างเหนื่อย อย่างที่แนะนำในตอนต้น ถ้าใครสามารถเช่ารถขับไป และค้างซักหนึ่งคืน จะเป็นอะไรที่ลงตัวพอดี จะได้มีโอกาสสัมผัสกับ วิวของอาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกอันสวยงามอีกด้วย